กูรูคอนโดฯ ชี้แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีม่วง ครองแชมป์ทำเลยอดนิยมผู้ประกอบ การแห่เปิดโครงการใหม่ต่อเนื่อง ฝ่ายวิจัยแอล.พี.เอ็น. พบอัตราการขายคอนโดฯเปิดขายใหม่ทั้ง 2 พื้นที่ตํ่ากว่า 50%
[read more=”อ่านต่อ” read less=”ย่อกลับ”]
ชี้รูปแบบโครงการมีการเปลี่ยนแปลง เผยตัวเลขยอดขายชะลอตัว
ทั้งนี้ เมื่อพิจารณาทั้ง 3 ทำเลอย่างละเอียด พบว่า ทำเลรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง) และทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า) เป็นทำเลที่ได้รับความนิยมต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 โดยเฉพาะสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง) ที่ครองอันดับ 1 มาเป็นเวลา 2 ปี และใน 9 เดือนแรกมีโครงการเปิดขายใหม่ 11 โครงการ จำนวน 6,028 หน่วย อัตราการขายอยู่ที่ประมาณ 37% คิดเป็นหน่วยเหลือขาย 3,833 หน่วย
โครงการที่เปิดขายส่วนใหญ่เป็นโครงการขนาดเล็กไม่เกิน 500-600 หน่วยต่อโครงการ จากเดิมโครงการที่เปิดขายส่วนใหญ่ปี 2558 มีใหญ่กว่าคือที่ประมาณ 1,000 หน่วยต่อโครงการ ระดับราคาที่เปิดขายส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณต่ำกว่า 2 ล้านบาทหรือกลุ่มกลาง-ล่าง คิดเป็นสัดส่วนที่ประมาณ 70-80% ของสินค้าทั้งหมดในพื้นที่
“เหตุที่ผู้ประกอบการลดขนาดโครงการลง ก็เพราะต้องการลดความเสี่ยง แต่ด้วยรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง) เป็นสายที่สามารถเดินทางเข้าสู่ในกลางเมืองกรุงเทพฯได้สะดวก ในขณะที่ราคาที่ดินยังสามารถพัฒนาโครงการที่มีระดับราคาไม่สูงได้ ผู้ประกอบการจึงเดินหน้าพัฒนาโครงการต่อเนื่อง แม้ว่าในพื้นที่จะมีโครงการเหลือขายมากก็ตาม แต่ด้วยมองว่าในอนาคตราคาที่ดินในพื้นที่จะมีราคาสูงมาก เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จ ไม่สามารถพัฒนาโครงการในระดับนี้ได้”นายสุริยา กล่าว
สำหรับทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า ถือเป็นทำเลที่ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 1 มาตลอดใน 3 ปีที่ผ่านมา โดยในช่วง 9 เดือนแรก พบว่า มีคอนโดมิเนียมเปิดขายใหม่จำนวน 6 โครงการ 4,790 หน่วย อัตราการขายอยู่ที่ 48% ลดลงจากปี 2558 ที่มีโครงการเปิดขายใหม่ในพื้นที่ 7 โครงการ จำนวน 6,233 หน่วย การเปิดตัวลดลงเป็นเหตุมากจากสินค้าคงค้างในตลาดที่ยังมีอีกเป็นจำนวน
ปัจจุบัน บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) มีโครงการในทำเลรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางซื่อ-สะพานพระนั่งเกล้า 2 โครงการคือ ลุมพินี คอนโดทาวน์ รัตนาธิเบศร์ , ลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์-งามวงศ์วาน ปัจจุบันปิดโครงการไปแล้ว แต่ยังมีที่ดินเหลือในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงอีกจำนวน 2-3 แปลง ทั้งนี้ต้องรอดูสถานการณ์ตลาดอีกครั้งหนึ่งจึงจะนำที่เดินเหล่านั้นมาพัฒนาต่อ
ขณะที่ในแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียว (อ่อนนุช-แบริ่ง) บริษัทมีโครงการที่พัฒนาจำนวน 2 โครงการ ได้แก่ โครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 76 – แบริ่ง สเตชั่น จำนวน 871 หน่วย ปัจจุบันมียอดขาย 50% และโครงการลุมพินี วิลล์ สุขุมวิท 113 จำนวน 1,514 หน่วย ยอดขายในปัจจุบัน 10%
ด้าน นายสุรเชษฐ กองชีพ รองผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย กล่าวว่า เส้นทางรถไฟฟ้าส่วนที่ขยายออกสู่พื้นที่กรุงเทพฯรอบนอกและปริมณฑลนั้น ปัจจุบันมีอยู่ 2 เส้นทาง คือสายสีเขียวจากอ่อนนุชไปแบริ่งและจะขยายต่อไปยังสมุทรปราการในอนาคต แม้ว่าสถานีแบริ่งจะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร แต่อยู่ในพื้นที่ที่ติดกับจังหวัดสมุทรปราการ ส่วนอีกเส้นทางคือ เส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง เตาปูน-บางใหญ่ ที่เพิ่งเปิดให้บริการไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่พื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงเป็นทำเลที่มีโครงการคอนโดมิเนียมเปิดขายมากที่สุดในรอบหลายปีที่ผ่านมาและยังคงเหลือขายอยู่ในปัจจุบัน
ปัจจุบันตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง มีจำนวนคอนโดมิเนียมทั้งหมดที่เปิดขายอยู่ในพื้นที่ 28,995 หน่วย และมีหน่วยเหลือขายไม่น้อยกว่า 7,500 หน่วย ผู้ประกอบการจึงจำเป็นต้องออกมาตรการทางการตลาดต่างๆ เพื่อมากระตุ้นยอดขาย ในส่วนของทำเลตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้า อ่อนนุช – แบริ่ง ปัจจุบันมีคอนโดมิเนียมที่ยังมีหน่วยเหลือขาย 36 โครงการ รวม 15,920 หน่วย โดยโครงการส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่รอบๆ สถานีอ่อนนุช ปุณวิถี บางนา
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ[/read]